ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับมัลติมีเดีย

ทําความรู้จักกับมัลติมีเดีย
           มัลติมีเดีย (Multimedia) มาจากคําว่า “Multus” ซึ่งเป็นภาษาลาติน หมายถึง มาก หลากหลาย และมีเดีย  (Media) มีความหมายเดียวกับ “Middle” หรือ “Center” หมายถึงการสื่อสารข้อมูลผ่านตัวกลาง ดังนั้น คําว่า มัลติมีเดีย” (Multimedia) จึงหมายถึง การนําองค์ประกอบของสื่อชนิดต่างๆ มารวมเข้าด้วยกัน (Multiple Intermediary) หรือ เรียกว่า ” สื่อประสม” (Multiple media)

ความหมายมัลติมีเดีย (Multimedia)
           การนําองค์ประกอบของสื่อชนิดต่างๆ มาผสมผสานรวมเข้าด้วยกันซึ่งประกอบด้วย ข้อความ (text), ภาพนิ่ง (Still Image), ภาพเคลื่อนไหว (Animation), เสียง (Sound), และวีดีโอ (Video) โดยผ่านกระบวนการทางระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อ สื่อความหมายกับผู้ใช้อย่างมีปฏิสัมพันธ์ (Interactive Multimedia) และได้บรรลุตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

องค์ประกอบของมัลติมีเดีย
          ตัวอักษร (Text) เช่น ตัวอักษรที่อยู่ในหนังสื่อ จดหมาย และหนังสือพิมพ์ เป็นต้น ถือเป็นองค์ประกอบสําคัญของมัลติมีเดียระบบมัลติมีเดียที่นําเสนอผ่อนจอภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ นอกจากจะมีรูปแบบและสีของตัวอักษรให้เลือกมากมายตามความต้องการแล้ว ยังสามารถกําหนดคุณลักษณะขอองการปฏิสัมพันธ์ (โต้ตอบ) ในระหว่างการนําเสนอได้อีกด้วย


        รูปภาพ (Images) และ กราฟฟิก (Graphic)  เช่น ภาพถ่าย (Photograph) แผนภูมิ (Chart) แผนที่ (Map) โลโก้ (Logo) และภาพร่าง (Sketch) เป็นต้น ถือเป็นส่วนประกอบที่มีบทบาทต่อระบบงานมัลติมีเดียมากกว่าข้อความหรือตัวอักษรทั้งนี้ เนื่องจากภาพจะให้ผลในเชิงการเรียนรู้หรือรับรู้ด้วยการมองเห็นได้ดีกว่า นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายทอดความหมายได้ลึกซึ้งมากกว่าข้อความหรือตัวอักษร ซึ่งข้อความหรือตัวอักษรจะมีข้อจํากัดทางด้านความแตกต่างของแต่ละภาษา แต่ภาพนั้นสามารถสื่อความหมายได้กับทุกชนชาติ รูปภาพจะแสดงอยู่บนสื่อชนิดต่างๆ เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือวารสารวิชาการเป็นต้น



         แอนิเมชั่น (Animation) หมายถึง ภาพกราฟฟิกที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อแสดงขั้นตอนหรือปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การเคลื่อนที่ของอะตอมภายในโมเลกุล หรือการเคลื่อนที่ของลูกสูบของเครื่องยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสร้างสรรค์จินตนาการให้เกิดแรงจูงใจของผู้ชม การผลิตภาพเคลื่อนไหวจะต้องใช้โปรแกรมที่มีคุณสมบัติเฉพาะทาง ซึ่งอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับขนาดไฟล์ ที่ต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บมากกว่าภาพนิ่งหลายเท่า


        เสียง (Sound)  เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สําคัญของมัลติมีเดีย โดยจะถูกจัดเก็บอยู่ในรูปของสัญญาณดิจิตอล ซึ่งสามารถเล่นซ้ํากลับไปมาได้ โดยใช้โปรแกรมที่ออกแบบมาเฉพาะสําหรับทํางานด้านเสียง หากในงานมัลติมีเดียมีการใช้เสียงที่เร้าใจและสอดคล้องกัเนื้อหาในการนําเสนอ จะช่วยให้งานระบบมัลติมีเดียเกิดความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความน่าสนใจและน่าติดตามในเรื่องราวต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เนื่องจากเสียงจะมีอิทธิพลต่อผู้ใช้มากกว่าข้อความหรือภาพนิ่งดังนั้น เสียงจึงเป็นองค์ประกอบที่จําเป็นสําหรับมัลติมีเดีย ซึ่ง เสียงที่นํามาใช้มีหลายรูปแบบ เช่น เสียงจากวิทยุ (Radio)เครื่องเล่นแผ่นเสียง (Gramophoe) เสียงที่เกิดจากการบันทึก (Record) และเสียงที่มาจากเทป (Audio Cassette) เป็นต้น



       วีดีโอ (Video)  เช่นโทรทัศน์ (Television) และวีดีโอเทป (Video Cass) เป็นต้น เป็นองค์ประกอบของมัลติมีเดียที่มีความสําคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากวีดีโอในระบบดิจิตอล สามารถนําเสนอข้อความ หรือรูปภาพ(ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว)ประกอบกับเสียงได้สมบูรณ์มากกว่าองค์ประกอบชนิดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักของการใช้วิดีโอในระบบมัลติมีเดีย ก็คือการสิ้นเปลืองทรัพยากรของพื้นที่บนหน่วยความจําเป็นจํานวนมาก เนื่องจากการนําเสนอวิดีโอด้วยเวลาที่เกิดขึ้นจริง (Real Time) จะต้องประกอบด้วยจํานวนภาพไม่ต่ํากว่า 30 ภาพต่อวินาที (Fram/Second) ถ้าหากการประมวลผลภาพดังกล่าวไม่ได้ผ่านกระบวนการบีบอัดขนาดของสัญญาณมาก่อน การนําเสนอวิดีโอเพียง 1 นาที อาจต้องใช้หน่วยความจํามากกว่า100 MB ส่งผลให้ไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไป ทําให้ประสิทธิภาพของงการทํางานลดลงตามไปด้วย จนกระทั้งเทคโนโลยีการบีบอัดขนาดของภาพได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทําให้ภาพวิดีโอสามารถทํางานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และกลายเป็นสื่อที่มีบทบาทสําคัญต่อระบบมัลติมีเดีย (Multimedia System)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น